1. ภายใน session จะต้องทำอะไรบ้าง?
ไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษค่ะ
คุณไม่ต้องเตรียมบทพูด ไม่ต้องทำ worksheet และไม่ต้องทำตามขั้นตอนใดๆ ที่ตายตัว
สิ่งที่คุณจะ “ได้ทำ” คือ **การอยู่กับตัวเองในแบบที่ลึกกว่าเดิม**
และพูดกับใครบางคนที่ “ฟังได้แม้ในจุดที่คุณยังไม่รู้จะพูดยังไง”
.......
ใน session จริง...
- เราจะคุยกัน แต่ไม่ใช่คุยเล่น และไม่ใช่คุยเร่ง
- ฉันจะถามในจังหวะที่คุณพร้อม
- ฉันจะพูดในจุดที่คลื่นของคุณเริ่มขยับ และอธิบายในจุดที่คุณติด
- ฉันจะวางพลังในคำบางคำ เพื่อให้ระบบของคุณเริ่มจัดตัวเองใหม่
คุณอาจพูดมาก หรือพูดน้อย
คุณอาจรู้ว่าอยากเล่าเรื่องอะไร หรือไม่รู้เลยว่าจะเริ่มยังไง
คุณอาจร้องไห้ คุณอาจนิ่ง
หรือคุณอาจหัวเราะกับบางจุดที่เคยจริงจังเกินไป
ทุกแบบคือ “ดีทั้งนั้น" จึงไม่มีแบบไหนที่ผิด
.......
สิ่งที่เราทำ ไม่ได้อยู่แค่ในบทสนทนา แต่คลื่นพลังที่อยู่ใน session จะทำงานไปพร้อมๆ กันในแบบที่คุณไม่ต้องเข้าใจมันก็ได้
แต่คุณจะ “รู้สึก” ถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวเองแบบไม่ฝืน
.......
ดังนั้น คุณไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจาก “ยอมให้ตัวเองอยู่ตรงนั้นอย่างที่คุณเป็น”
ที่เหลือ…เราจะทำไปด้วยกันค่ะ
2. พูดคุยอย่างเดียวเหรอ หรือมีวิธีอื่นด้วย?
ไม่ใช่แค่การพูดคุยค่ะ
แต่การพูดคุยจะเป็นเหมือน “สะพาน” ที่พาคุณเข้าไปสู่จุดที่ลึกกว่าความคิด และเริ่มเชื่อมกับ “สิ่งที่ระบบข้างในคุณอยากเปลี่ยน”
.......
ใน session ฉันใช้หลายวิธีผสมกัน ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณแบกเข้ามาในวันนั้น รวมถึงคลื่นของคุณในจังหวะนั้น ๆ
บางวันเราอาจพูดกันเยอะมาก ลึกจริง เจาะจริง
แต่บางวันฉันอาจใช้คำเพียงไม่กี่คำ แล้วให้พลังงานทำงานในจังหวะที่ระบบคุณพร้อมจะปล่อย
.......
สิ่งที่ฉัน “ใช้” รวมถึง
- การฟังคลื่นความรู้สึกที่คุณอาจยังพูดไม่ได้
- การวางพลังงานเพื่อคลี่สิ่งที่แน่นอยู่ในระบบ
- การแปลภาษาที่ความรู้สึกพยายามจะพูดออกมา
- การตั้งคำถามในจุดที่ “ความเข้าใจใหม่จะเริ่มปรากฏ”
- การให้ wisdom ในจังหวะที่จิตและสมองของคุณรับได้
ทั้งหมดนี้ไม่ได้มาแบบมีขั้นตอนตายตัว แต่จะ “เรียงกันเอง” ตามจังหวะที่พลังงาน + จิตของคุณเปิดให้เข้า
.......
คุณไม่ต้องเข้าใจพลังงาน และคุณไม่ต้องรู้ว่า “มันทำงานยังไง”
แต่คุณจะรู้ว่า... “มันเกิดอะไรบางอย่างในตัวคุณ” ที่ไม่ใช่แค่เข้าใจด้วยสมอง แต่ “ใจเริ่มคลาย” และ “บางอย่างข้างในเริ่มขยับ”
.......
เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่พูด ไม่ใช่แค่ฟัง แต่คือการ “เข้าไปอยู่กับตัวคุณในระดับที่ระบบคุณพร้อมจะเปลี่ยนจริง ๆ”
3. จะร้องไห้ไหม? ต้องเก็บอารมณ์ไหม?
ร้องได้ค่ะ และถ้าร้อง…ก็ไม่เป็นไรเลย
ไม่ต้องขอโทษ ไม่ต้องเก็บมันไว้ และไม่ต้องพยายาม “เป็นคนที่คุมตัวเองได้ตลอดเวลา”
.......
หลายคนที่มาหาฉันไม่ได้ตั้งใจจะร้อง แต่เมื่อพูดถึงจุดที่ “จิตพยายามจะพูดมานานแต่ยังไม่มีใครฟัง”
มันจะออกมาโดยที่คุณไม่ต้องพยายามจะรู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ
เพราะความรู้สึกบางอย่างไม่ต้องใช้คำ มันปล่อยตัวเองออกมาเมื่อคลื่นภายในเริ่มคลาย
และเมื่อคุณอยู่ในพื้นที่ที่ “ไม่เร่ง ไม่ตัดสิน”
น้ำตาก็เป็นแค่ “การสื่อสารของจิตที่เริ่มปล่อยได้แล้ว”
.......
ฉันจะไม่เร่งคุณให้อารมณ์ออก แต่ฉันจะ “ถือสนามให้คุณปล่อยได้ ถ้าจังหวะมันมาถึงเอง”
**ไม่จำเป็นต้องร้องถึงจะเรียกว่าเปลี่ยน และไม่ร้องเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ผล**
คุณจะขยับแบบไหนก็ได้ ขอแค่คุณ “อยู่กับตัวเองแบบที่คุณเป็น”
ที่เหลือ…ฉันจะอยู่ตรงนั้นกับคุณ
.......
Soul Structuring ไม่ใช้การควบคุมอารมณ์เป็นตัววัดผล แต่มันให้พื้นที่ที่ “อารมณ์ไม่ต้องถูกเก็บไว้เพื่อเป็นคนเก่ง”
ถ้าวันนั้นคุณอยากเงียบ... เงียบ
ถ้าวันนั้นคุณอยากร้อง... ร้อง
ฉันจะอยู่กับคุณได้ทุกแบบ โดยไม่มีคำว่า "อ่อนไหวเกินไป" หรือ "ต้องเก่งกว่านี้"
4. ต้องนั่งสมาธิหรืออยู่เงียบๆ ไหม?
ไม่ต้องเลยค่ะ คุณไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิ
ไม่ต้องหลับตา ไม่ต้องอยู่เงียบๆ นานๆ
และไม่ต้องพยายาม “นิ่งให้ได้” ก่อนจะเริ่ม session
.......
ใน Soul Structuring
**การเงียบไม่ใช่เงื่อนไข แต่เป็นจังหวะ**
บางจังหวะมันจะเงียบเอง เพราะข้างในคุณเริ่มตกผลึก
และบางจังหวะ เราจะพูดกันเยอะมาก เพื่อให้ความคิดและความรู้สึกได้เคลียร์ตัวเองก่อนจะเงียบอย่างเป็นธรรมชาติ
ฉันไม่เชื่อว่าทุกอย่างต้องเงียบถึงจะลึก
ฉันเชื่อว่า...**ความลึกที่แท้ มันเกิดเมื่อ “คลื่นของคุณเริ่มนิ่งจากภายใน” ไม่ใช่จากภายนอกบังคับ**
.......
สิ่งที่เราจะทำร่วมกันใน session
คือฟัง วาง คลี่ และเชื่อมกับจุดที่ติดอยู่
แล้วถ้ามีช่วงใดที่ระบบของคุณอยากเงียบ... เราจะเงียบ
แต่ถ้ามันยังต้องพูด... เราจะพูด
คุณไม่ต้อง “พยายามเข้าสู่ความสงบ” เพราะเราจะทำให้ความสงบ “เข้าหาคุณ” เอง
.......
Soul Structuring ไม่ใช่คลาสสมาธิ และไม่ต้องสงบถึงจะเริ่มได้
คุณสามารถเริ่มจาก “ความวุ่นวายในใจ” ได้เลย แล้วเราจะค่อย ๆ คลี่มันไปด้วยกัน
จนคุณได้ยินเสียงของตัวเอง...โดยไม่ต้องพยายามนิ่ง
5. ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองติดตรงไหน จะเริ่มยังไงดี?
คุณไม่ต้องรู้ว่าตัวเองติดอะไรอยู่…ถึงจะเริ่มได้
และความจริงก็คือ...คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาหาฉัน ก็ไม่รู้ชัดหรอกว่าตัวเอง “ติดอะไร” กันแน่
พวกเขามาเพราะรู้สึกว่า
- มันแน่นข้างใน
- มันวนแบบเดิม
- หรือบางครั้งก็แค่ “รู้สึกไม่โอเค แต่บอกไม่ถูกว่าทำไม”
.......
และนั่นแหละ…คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดแล้วค่ะ
Soul Structuring ไม่ได้ต้องการคำตอบ
มันเริ่มจากความรู้สึกคลุมเครือที่คุณพกเข้ามาด้วย แล้วค่อยๆ พาเข้าไปฟังสิ่งที่อยู่ลึกกว่านั้น
สิ่งที่ยังไม่เคยถูกพูดออก หรือถูกกลบไว้ด้วยคำอธิบายมากมายที่ไม่เคยช่วยอะไรจริงๆ
.......
ฉันจะไม่เร่งให้คุณหาคำมาอธิบายทันที
ฉันจะฟังจังหวะ ฟังความรู้สึกในคำว่า “ไม่รู้” และพาคุณคลี่ทีละนิด…จนคุณเริ่มได้ยินบางอย่างในตัวเองที่คุณเคยกลบมานาน
.......
คุณไม่ต้องรู้ว่ากำลังติดตรงไหน เพราะสิ่งที่ฉันทำ ไม่ใช่การรอฟังปัญหาที่คุณสรุปได้
แต่คือการฟัง “คลื่นของสิ่งที่ยังไม่เป็นคำ” แล้วค่อย ๆ แปลให้คุณฟังกลับมาเอง
.......
Soul Structuring ไม่ได้ต้องการคำตอบเริ่มต้นจากคุณ มันแค่ต้องการให้คุณ “อยู่กับตัวเองอย่างกล้าพอจะไม่รู้ก่อนก็ได้”
แล้วระหว่างที่คุณนั่งตรงนั้น…สิ่งที่คุณติดอยู่ จะเริ่มปรากฏออกมาช้าๆ ในแบบที่คุณเข้าใจเองได้จริง