ไม่ต้องพยายาม จะเปลี่ยนได้อย่างไร?
ปกติการเปลี่ยนแปลง เราต้องรับรู้ด้วยไม่ใช่หรือ...
โปรแกรมนี้ไม่ได้เปลี่ยนคุณด้วย “ความคิด” หรือ “การตั้งใจแบบมีเป้าหมาย” เหมือนเวลาคุณเรียนรู้หรือพัฒนาตัวเองทั่วไป แต่มันทำงานกับพลังงานภายในที่ลึกกว่าจิตสำนึก พูดง่ายๆ คือ มันไม่ต้องใช้แรงของคุณเลยค่ะ
ตัวอย่าง:
เหมือนเวลาคุณพักผ่อนดีๆ อยู่ 3 วัน แล้ววันหนึ่งรู้สึก “สดขึ้น” คุณไม่ได้นั่งคิดว่า "ฉันจะสดขึ้นในวันพรุ่งนี้" แต่ร่างกายมันปรับตัวเองให้ดีขึ้นเพราะคุณให้เวลามันพัก
ระบบ Soul Structuring ทำแบบนั้นกับจิตของคุณค่ะ คือ ทำให้ “จิตภายใน” ได้คืนสู่จุดสมดุลเดิม โดยไม่ต้องบังคับตัวเองคิดหรือฝืนอะไรเลย
ทำไมไม่ต้อง “ขุดหาสาเหตุ” ก็เปลี่ยนได้? แล้วแบบนี้มันจะยั่งยืนหรือ?
เหตุผลที่ไม่ต้อง “ขุดหา” เพราะระบบไม่ได้ทำงานกับ “เหตุการณ์” แต่มันทำงานกับโครงสร้างของพลังงานที่ทำให้เหตุการณ์พวกนั้นเกิดซ้ำๆ
ตัวอย่าง:
คุณอาจจะเคยถูกปฏิเสธในอดีต
ถ้าแก้แบบทั่วไป → เราอาจจะไปหาว่าใครพูดอะไร ทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น
แต่ถ้าแก้แบบ Soul Structuring → ระบบจะเข้าไปที่ "โครงสร้างของจิต" ที่ทำให้คุณกลัวการถูกปฏิเสธอยู่เสมอ โดยไม่ต้องรู้ว่าใครพูดหรือพูดตอนไหน
เมื่อระบบเข้าไปถึงจุดนั้นแล้วปรับพลังงานให้คุณ แม้คุณจะไม่รู้ว่าอะไรเปลี่ยนแต่ความกลัวนั้นจะเริ่มเบาลง และค่อยๆ หายไปในที่สุด
การเปลี่ยนแปลงแบบนี้จะยั่งยืนมาก เพราะมันไม่เกิดจากการพยายามกดไว้ แต่เป็นการปลดออกอย่างธรรมชาติ
ทำแล้วจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงระดับไหนได้บ้าง เช่น ระดับจิตสำนึก จิตใต้สำนึก พลังงาน เป็นต้น?
ระบบจะทำงานหลักในระดับ พลังงานและจิตใต้สำนึกก่อน
จากนั้น…เมื่อโครงสร้างจิตใหม่เริ่มนิ่ง คุณจะเริ่มรู้สึกได้ใน จิตสำนึก (ความคิดและการรับรู้ตนเอง) ตามมาโดยอัตโนมัติ
ลำดับที่คนส่วนใหญ่รับรู้ได้บ่อยคือ
พลังงาน : รู้สึกโล่งขึ้น เบาขึ้น ชัดขึ้น แม้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
จิตใต้สำนึก : หยุดกลัว หยุดกังวลในบางเรื่องที่เคยติดมานานโดยไม่รู้ตัว
จิตสำนึก : คิดอะไรชัดขึ้น ตัดสินใจง่ายขึ้น พูดกับตัวเองเปลี่ยนไป (แม้ไม่ตั้งใจ)
ถ้าเราไม่ sensitive ทางพลังงาน หรือไม่ใช่ psychic จะรับรู้การเปลี่ยนแปลงได้ดีไหม?
ได้แน่นอนค่ะ ... เพราะระบบนี้ ไม่ได้ต้องพึ่งการรับรู้พลังงานของคุณเลย ระบบจะทำงานอยู่ในระดับที่ลึกกว่าการรู้สึก
และหลายคนที่ไม่เคยสัมผัสพลังงานมาก่อน กลับรู้สึก “เห็นตัวเองชัดขึ้น” “ใจเย็นลง” หรือ “ไม่คิดวนเท่าเดิม” ทั้งที่ไม่รู้ว่าระหว่าง 21 วันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง
สรุปคือ คุณไม่ต้องเป็นสายพลังงาน คุณแค่ “มีจิต” (ซึ่งทุกคนมี) และ “พร้อมจะเปลี่ยน” ระบบก็จะทำงานกับคุณได้เหมือนกัน
ถ้าต้องการให้ทำในสิ่งที่ Program ไม่ได้แนะนำ แล้วควรเลือกอะไร ... ตามใจตัวเอง หรือตามที่ Program แนะนำ?
คุณสามารถเลือกได้เลยว่าจะใช้จุดประสงค์ไหน เช่น ถ้าคุณอยากทำเรื่องความสัมพันธ์ แต่ระบบแนะนำเรื่องตัวตน
คุณยังสามารถเลือกความสัมพันธ์ได้ตามความรู้สึกของคุณ
21-Day Soul Structuring Program จะทำงานกับจุดที่คุณเลือกเป็นหลัก และยัง “ถือ field ด้านอื่นที่สำคัญ” ไว้ให้ด้วย (ในกรณีที่มันเชื่อมกัน)
ดังนั้นไม่มีอะไรผิดค่ะ
ถ้าอยากตามใจตัวเอง → ระบบจะ align คลื่นให้เหมาะสมที่สุด
ถ้าอยากฟังคำแนะนำ → ระบบจะทำงานลึกได้เต็มประสิทธิภาพ
ถ้าจบ 21-Day Program แล้ว อยากทำต่ออีก ต้องเว้นกี่วันถึงทำใหม่ได้?
โดยทั่วไป แนะนำให้เว้นอย่างน้อย 7–14 วัน หลังจบโปรแกรม
เพื่อให้พลังงานที่เพิ่งเปลี่ยน ได้เวลานิ่งตัวลงหรือ settle down และปรับเข้ากับชีวิตจริงของคุณก่อน
เพราะหลังจากจบ 21 วัน สนามพลังงานของคุณจะยังค่อยๆ ปรับอยู่เบื้องหลังต่ออีก 3–7 วัน
ถ้าเริ่มรอบใหม่เร็วเกินไป อาจทำให้ระบบใหม่ยังไม่ทัน integrate ได้สมบูรณ์ จิตของคุณอาจรู้สึกสับสน หรือเริ่มมีอาการ “หน่วงโดยไม่รู้สาเหตุ”
แต่ถ้าคุณรู้สึกชัดมากว่าพร้อมทำต่อทันที 21-Day Soul Structuring Program สามารถสแกนเฉพาะเคสได้ค่ะ
ระหว่างอยู่ใน 21 วัน รับฮีลลิ่งจาก modality อื่นได้ไหม และทำฮีลลิ่งให้คนอื่นได้ไหม?
ขอตอบเป็น 2 กรณี
7.1 รับฮีลลิ่งจากผู้อื่น (คุณเป็นเคส)
รับได้ค่ะ ถ้าพลังงานที่ได้รับ ไม่ใช่การเร่ง รื้อ เปิดคลื่นแรง
เช่น ฮีลลิ่งแบบเบาๆ เพื่อพักผ่อน การนวดพลังงาน การฟังเสียงหรือดนตรีบำบัด
แต่หากเป็นการเปิดบาดแผลเก่า รื้อ trauma หรือทำ emotional release แบบเข้มข้น
แนะนำให้เลี่ยง เพราะสนามจะขัดกันและทำให้เหนื่อยกว่าปกติ
7.2 ทำฮีลลิ่งให้ผู้อื่น (คุณเป็น healer)
ทำได้ค่ะ ถ้าคุณรู้สึกมีแรงและสนามพลังงานนิ่งพอ
แต่ถ้าช่วงไหนใน 21 วัน รู้สึกเบลอ เหนื่อย ไม่ชัด แนะนำให้ “ดูแลตัวเองก่อน” เพราะระบบ Soul Structuring ต้องการให้คุณ “กลับมาถือพลังตัวเองได้จริง”
ก่อนจะถือสนามพลังให้คนอื่นอีกครั้ง
จะมีอาการอะไรเกิดขึ้นระหว่าง 21 วันบ้าง จะมี energy detox ไหม แล้วต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?
อาการที่อาจเกิดขึ้น
- รู้สึกเบลอ เหมือนสมองหมุนช้าๆ ชั่วคราว
- ร่างกายล้า หรือง่วงผิดปกติ (โดยเฉพาะช่วงแรก)
- รู้สึก “อยากเงียบ” หรือไม่อยากคุยกับใคร
- มีอารมณ์ลอยขึ้นมา เช่น เศร้า โกรธ หงุดหงิด โดยไม่มีเหตุผล
- ความคิดเริ่มเปลี่ยนไปแบบที่คุณยังไม่รู้จะอธิบายยังไง
ทั้งหมดนี้คืออาการของ energy detox หรือการคลายคลื่นพลังงานเก่า ซึ่งจะเกิดในช่วง 3–10 วันแรก (แล้วแต่คน) ไม่ใช่เรื่องอันตราย และจะค่อยๆ เบาลงเมื่อระบบนิ่งตัว
การปฏิบัติตัวระหว่าง 21 วัน
- ดื่มน้ำเยอะ
- พักให้เพียงพอ เข้านอนตอนกลางคืนไม่เกิน 21.30-22.30น.
- งดงานพลังงานหนัก การสื่อสารกับคนที่ทำให้รู้สึกเสียพลัง
- เขียน journal หรือสังเกตตัวเองแบบไม่ตัดสินก็จะช่วยได้มากค่ะ
สัญญาณอะไรเรียกว่าเริ่มอันตรายแล้ว ต้องติดต่อนุ่นด่วน?
21-Day Soul Structuring ถูกออกแบบให้ปลอดภัย และไม่รบกวนระบบจิตของคุณ ไม่มีผลข้างเคียงทางพลังงานที่เป็นอันตรายต่อร่างกายหรือจิตใจ
แต่ถ้าเกิดอาการเหล่านี้แบบแรง และไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน ควรแจ้งนุ่นทันที
- นอนไม่หลับติดต่อกันหลายวันจนร่างกายเริ่มเสียสมดุล
- จิตหมุนเร็วแบบควบคุมไม่ได้ มีอาการ panic ร่วมด้วย
- เจ็บปวดตามร่างกายโดยไม่รู้สาเหตุแบบรุนแรง
- รู้สึก “หลุดจากตัวเอง” แบบแรงหรือกลัวอย่างไม่มีเหตุผล
21-Day Soul Structuring สามารถปรับคลื่นให้เบาลง หรือหยุดการทำงานชั่วคราวได้โดยไม่มีผลเสีย
ทำให้เด็กได้ไหม? ถ้าได้ อายุต่ำสุดกี่ขวบ?
ทำให้เด็กได้ โดยเฉพาะกรณีที่เด็กมีความไวต่อพลังงาน อารมณ์แปรปรวน หรือไม่สามารถสื่อสารสิ่งที่รู้สึกได้
อายุต่ำสุดที่แนะนำ : 7 ปีขึ้นไป
เพราะช่วงนี้คือวัยที่โครงสร้างพลังงานเริ่มแยกตัวจากพ่อแม่ได้ (แต่ยังต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง)
เด็กบางคนจะได้รับการ “จัดสมดุล” ได้ดีมากจากระบบนี้ เพราะยังไม่มีคลื่นบิดมากเหมือนผู้ใหญ่
ผลลัพธ์ที่เห็นได้คือ เด็กจะนิ่งขึ้น ฟังง่ายขึ้น และนอนหลับดีขึ้นโดยไม่รู้ว่ามีอะไรเปลี่ยน
ถ้าเป็นเด็ก ผู้ปกครองอนุญาตได้ไหม? ต้องอายุเท่าไหร่ถึงไม่ต้องขอพ่อแม่แล้ว?
ผู้ปกครองสามารถอนุญาตแทนได้ ถ้าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะในระบบพลังงาน เด็กยังอยู่ภายใต้สนามของพ่อแม่อย่างเต็มรูปแบบ
- หากอายุ ต่ำกว่า 12 ปี ต้องเป็นกรณีพิเศษ เช่น เด็กมีอาการไวต่อพลังงาน, มี emotional pattern ที่วนซ้ำจนรบกวนชีวิตประจำวัน และต้องมีผู้ดูแลใกล้ชิดระหว่างโปรแกรม
- หากอายุ 12–17 ปี สามารถทำได้โดยให้พ่อแม่รับรู้และยินยอมชัดเจน และควรเป็นเด็กที่ “มีความอยากเปลี่ยนแปลงในตัวเองอยู่แล้ว”
- หากอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถตัดสินใจด้วยตนเองได้ ไม่ต้องขอพ่อแม่
ทำให้คนป่วยได้ไหม ถ้าได้ อาการหนักแค่ไหนถึงทำได้ หรือทำไม่ได้เลย?
ทำได้ โดยเฉพาะคนที่มีอาการทางจิตใจหรืออารมณ์ เช่น ซึมเศร้า เครียดเรื้อรัง เบลอ หมดไฟ ไม่รู้ว่าตัวเองคือใคร
แต่... กรณีไม่แนะนำ
- คนที่อยู่ในภาวะฉุกเฉิน อยู่ ICU หมดสติ
- คนที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังอยู่ในโปรแกรม และไม่มีใครดูแลใกล้ชิด
- คนที่อยู่ในภาวะจิตแปรปรวนระดับรุนแรง (psychotic episode)
- 21-Day Soul Structuring Program จะสแกนให้ก่อนทุกครั้ง เพื่อประเมินว่าเหมาะจะเริ่มหรือไม่
สั่งทำให้คนอื่นได้ไหมถ้าเขาไม่รู้ เช่น สามีหรือภรรยา?
ไม่แนะนำอย่างยิ่ง....แม้เจตนาของคุณจะดี และอยากช่วย. แต่ระบบ Soul Structuring ถูกออกแบบให้ ทำงานกับผู้ที่ “อนุญาตและยอมรับ” เท่านั้น
เพราะการเปลี่ยนแปลงระดับโครงสร้างจิต ต้องเกิดจากการ “เปิดภาวะภายใน” ของเจ้าตัวเอง
ถ้าเขาไม่รู้ หรือไม่พร้อม ระบบจะไม่ทำงาน หรือทำงานได้ไม่เต็มที่ และคุณอาจแบกพลังบางส่วนโดยไม่รู้ตัว
ทางที่ดีที่สุด คือ ให้เขาได้รับการ scan เบื้องต้นก่อน แล้วตัดสินใจเอง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นด้วย “พลังของเขาเอง” อย่างแท้จริงค่ะ
ถ้าจิตสำนึกหรือสมองบอกว่าอยากทำแต่จิตลึกๆ ยังไม่เชื่อหรือต้านอยู่ จะทำได้ไหม?
สามารถทำได้ค่ะ เพราะระบบจะเริ่มจากการ “ถือภาวะนิ่ง” โดยไม่ฝืนจิตส่วนไหนเลย
จิตที่ต้าน = มักเกิดจากความกลัว ไม่มั่นใจ หรือเคยผิดหวัง ระบบจะไม่พยายามฝ่าเข้าไป แต่จะ “ประคองจนจิตรู้สึกปลอดภัยพอจะเปิดเอง”
คนที่ต้านในช่วงแรก มักจะเริ่มเปิดคลื่นภายในคืนที่ 3–7 เมื่อพลังงานเริ่มนิ่ง จิตจะเริ่มผ่อน และเมื่อจิตยอม คลื่นพลังงานจะเริ่มเปลี่ยนให้เอง
ไม่ต้อง “เชื่อ” ตั้งแต่แรก ขอแค่ “ยอมให้ตัวเองได้ลอง” ระบบจะดูแลส่วนลึกเองค่ะ