1.  Soul Structuring ต่างจากการโค้ชหรือการบำบัดทั่วไปยังไง?
 
ถ้าคุณเคยทำ coaching มาก่อน  คุณอาจคุ้นกับคำถามประมาณนี้

“คุณอยากได้อะไร?”
“คุณจะทำยังไงให้ได้สิ่งนั้น?”
“คุณมี resource อะไรอยู่บ้าง?”

และถ้าคุณเคยผ่านการบำบัด
คุณอาจเคยได้พูดถึงความเจ็บ ความกลัว หรืออดีตที่คุณยังไม่เคยเข้าไปแตะ

แต่....Soul Structuring ไม่เหมือนทั้งสองแบบนั้น

.......

ฉันไม่ได้เริ่มจากเป้าหมาย
ไม่ได้เริ่มจากการเจาะบาดแผล
และไม่ได้พาคุณแก้ปัญหาแบบทีละประเด็น

**สิ่งที่ฉันทำคือดูว่า "โครงสร้างภายในของคุณ" กำลังทำงานผิดจังหวะตรงไหนบ้าง**
บางจุดมันแน่น บางจุดมันซ้อน บางจุดคุณไม่รู้ว่าคุณกำลังวนอยู่กับมัน

ฉันฟังทั้งคำที่คุณพูด และคลื่นพลังงานในคำที่คุณไม่ได้พูด
แล้ววางคำ วางจังหวะ และวางพลังให้ "สิ่งที่ติดอยู่ในระบบของคุณ" เริ่มขยับโดยธรรมชาติ

.......

และสิ่งที่ต่างจากโค้ชชิ่งอย่างชัดเจนคือ...

- ฉัน “ไม่ห้ามสอน”
- ฉันพูดในจุดที่คุณยังไม่เคยเห็น
- ฉันให้ wisdom ที่คุณอาจไม่เคยมี
- และ...ฉันจะพาให้คุณ “หลุดจากเพดานของตัวเอง” ที่คุณไม่รู้ว่าคุณติดอยู่
- ฉันไม่ได้ใช้การตั้งคำถามเป็นเครื่องมือหลัก เพราะฉันรู้ว่า…บางจุดไม่ต้องถาม แค่ "พูดให้ตรง" ก็เปลี่ยนคลื่นข้างในได้เลย

ฉันรู้ว่าใครติดที่ wisdom layer ไหน  จะเปิดจังหวะไหนให้เขารับได้
จะดึงเขาออกจาก loop ความคิด หรือ loop พลังงานยังไง ตั้งแต่เรื่องการใช้ชีวิต ไปจนถึงจิตวิญญาณลึกที่สุด (เว้นทำอาหารนะคะ อันนี้ยังไม่เปิดคลื่น 555)

.......

Coaching พยายามไม่สอน...Therapy พยายามไม่เร่ง... 
Soul Structuring ทำในจังหวะที่ “คลื่นของคุณต้องการจะเปลี่ยน”  โดยมีฉันเป็นคนที่ “พูดให้คลื่นในตัวคุณขยับได้จริง”

และทั้งหมดนี้...
ไม่ได้เกิดจากคำพูด แต่มาจากคลื่นที่ฉัน “วางไว้” ตลอดการทำงาน
เพื่อให้ระบบของคุณจัดตัวเองใหม่ โดยที่คุณยังรู้สึกว่า “นี่เป็นการกลับมาเป็นตัวเอง ไม่ใช่เปลี่ยนเป็นใคร”


2. ต้องเชื่อเรื่องพลังงานไหมถึงจะเข้า session นี้ได้?
 
ไม่ต้องค่ะ

คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อเรื่องพลังงาน  ไม่ต้องเข้าใจจักระ  ไม่ต้องนั่งสมาธิทุกวัน
และไม่ต้องมีประสบการณ์ทางจิตวิญญาณใดๆ มาก่อนเลย

สิ่งที่คุณต้องมีแค่ “ความรู้สึกว่า…ฉันอยากเข้าใจตัวเองมากกว่านี้”

.......

คำว่า “พลังงาน” ฟังดูเป็นเรื่องลึกลับสำหรับบางคน
แต่จริง ๆ แล้ว…มันคือสิ่งที่คุณ “รู้สึกอยู่ตลอดเวลา” โดยที่คุณอาจไม่ได้เรียกมันว่าพลังงาน และทุกคนเคยรู้สึกถึงพลังงานละเอียดมากันแล้วแน่นอน

เช่น

- คุณเคยเดินเข้าไปในที่แห่งหนึ่งแล้วรู้สึกอึดอัดทันทีไหม ทั้งที่ไม่มีใครพูดอะไร?
- คุณเคยคุยกับบางคนแล้วรู้สึกว่า “หมดแรง” ทั้งที่คุยเรื่องธรรมดาๆ?
- หรือคุณเคยแค่อยู่ใกล้บางคนแล้วรู้สึก “เบาใจ” แบบไม่รู้เพราะอะไร?

สิ่งเหล่านั้น…คือพลังงาน
เป็นคลื่นที่ร่างกายของคุณรับรู้ ก่อนที่สมองคุณจะคิดหรือแปลออกมาได้

.......

ใน session นี้  เราจะทำงานกับคลื่นระดับนั้นและมากกว่านั้น แบบที่คุณไม่ต้องพยายาม “เข้าใจมัน”
แต่คุณจะ “รู้สึก” ถึงการเปลี่ยนบางอย่างภายใน ผ่านการพูด ฟัง จังหวะ และการวางพลังที่เหมาะกับระบบของคุณในตอนนั้น

คุณไม่ต้องเชื่อ....แค่ให้โอกาสตัวเองได้ลองฟังสิ่งที่คุณอาจไม่เคยได้ยินจากตัวเองมาก่อน
และพอจังหวะพร้อม…คุณจะเริ่มเข้าใจมันเองจากภายใน โดยไม่ต้องแปลคำว่า “พลังงาน” ให้ได้ก่อนเลย

.......

Soul Structuring ไม่ได้ใช้พลังงานเป็นความเชื่อ  แต่มันใช้พลังงานเป็น “เครื่องมือที่ทำงานควบคู่ไปกับคำ พื้นที่ และจังหวะของคุณ”
ถ้าคุณอยากเปลี่ยนข้างในโดยไม่ต้องฝืน  คุณไม่ต้องเชื่อก่อน  คุณแค่ต้องพร้อมจะฟังตัวเองจริงๆ สักครั้งค่ะ


3. ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย จะเข้าใจไหม?
 
คุณจะเข้าใจค่ะ.... และคุณไม่จำเป็นต้องรู้อะไรเลยก่อนมา

คุณไม่ต้องรู้จักคำว่า “พลังงาน” ...  ไม่ต้องเข้าใจระบบจิตใต้สำนึก ... ไม่ต้องมีประสบการณ์ coaching, therapy, Healing หรือทำงาน Inner Work มาก่อน

สิ่งที่คุณต้องมีมีแค่อย่างเดียว คือ **ความรู้สึกว่า "ฉันอยากเข้าใจตัวเองมากกว่านี้"**
และแค่นั้นก็พอแล้วสำหรับการเริ่มต้น

.......

ใน Soul Structuring Session  ฉันไม่ได้ใช้ศัพท์เทคนิค
ไม่ได้พาคุณเข้ากระบวนการซับซ้อน และไม่คาดหวังให้คุณ “พร้อม” ก่อนจะเริ่ม

สิ่งที่ฉันทำคือ…

- พูดกับคุณด้วยภาษาคนธรรมดา
- ฟังสิ่งที่คุณกำลังสื่อออกมา ทั้งคำพูดและสิ่งที่คุณไม่ได้พูด
- ถามในจังหวะที่คุณพร้อม
- และอธิบายทุกอย่างแบบที่คุณเข้าใจได้ง่าย โดยไม่รู้สึกว่า “ฉันอยู่ผิดที่”

.......

หลายคนที่มาหาฉันครั้งแรก  บอกว่าตัวเอง “ไม่รู้จะพูดอะไร”
แต่สุดท้าย…เขากลับพูดในสิ่งที่เขาไม่เคยพูดกับใครเลย

หลายคนบอกว่า “ไม่เคยเข้า session แบบนี้มาก่อน”  แต่พอจบ session เขากลับบอกว่า
“ฉันไม่เข้าใจทั้งหมดนะ แต่ฉันรู้ว่าข้างในฉันมันเปลี่ยนอะไรบางอย่างแล้ว”

.......

เพราะฉะนั้น…คุณไม่ต้องเข้าใจ “วิธี” ก่อน ... คุณแค่ต้องอยากเข้าใจ “ตัวเอง” จริง ๆ
ที่เหลือ ฉันจะเป็นคนวางจังหวะ และพาคุณเข้าไปทีละชั้น  โดยไม่มีใครรีบ และไม่มีใครตัดสินว่าคุณต้องเข้าใจเร็วแค่ไหน


4. ต้องเตรียมตัวอะไรไหมก่อนเข้า session?
 
ไม่ต้องเลยค่ะ

คุณไม่ต้องเตรียมบทพูด  ไม่ต้องเรียบเรียงเรื่องราวในหัว ไม่ต้องรู้ว่าจะพูดเรื่องไหนก่อน
และไม่ต้อง “ทำตัวให้พร้อม” ก่อนจะมาหา

.......

สิ่งที่คุณต้องมี มีแค่… **ตัวคุณเอง ในสภาพที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้**
จะสับสน เหนื่อย เงียบ ไม่มั่นใจ หรือยังไม่แน่ใจว่ากำลังติดอะไร... ก็มาได้เลย

คุณสามารถมานั่งลง แล้วพูดเพียงแค่ว่า  “ฉัน/หนู/ผม ไม่รู้ว่ากำลังรู้สึกอะไร”
แล้วจากตรงนั้น เราจะเริ่มไปด้วยกัน

.......

ฉันไม่ได้ทำ session แบบที่คุณต้อง active ตลอดเวลา
ฉันจะเป็นฝ่าย “ฟังคลื่น ฟังจิต ฟังคำ” ของคุณด้วย และค่อยๆ พาเข้าไปที่จุดสำคัญของคุณเอง
โดยไม่เร่ง ไม่ตัดสิน และไม่คาดหวังว่า…คุณต้องพร้อมก่อนจะเปลี่ยนได้

.......

สิ่งเดียวที่ฉันแนะนำก่อนเข้า session คือ...
**ให้เวลากับตัวเองอย่างเต็มที่ในวันนั้น**
อาจเผื่อเวลานิ่ง ๆ ก่อน session สักนิด และไม่รีบกลับไปใช้พลังต่อทันทีหลังจบ
เพื่อให้คลื่นที่ขยับใน session มีที่ว่างพอจะจัดตัวเองต่อไปได้

.......

คุณไม่ต้องเตรียมตัว แค่ “ให้ตัวเองมาอยู่ตรงนั้น” อย่างที่คุณเป็น
เพราะในจังหวะที่คุณเริ่มฟังตัวเอง… สิ่งที่ควรถูกคลี่ มันจะคลี่ของมันเองค่ะ


5. ถ้าฉันพูดไม่เก่ง / อธิบายตัวเองไม่เก่ง จะทำได้ไหม?
 
ได้แน่นอนค่ะ และขอบอกเลยว่า…คุณไม่ได้คนเดียวที่รู้สึกแบบนี้

หลายคนที่เข้ามาหาฉัน เริ่มต้นด้วยคำว่า
“ไม่รู้จะเล่าเรื่องยังไงดีค่ะ”,  “มันเยอะในหัว แต่พูดไม่ออกเลย” และอีกมากมาย
...และนั่นไม่ใช่ปัญหาเลย

.......

เพราะสิ่งที่ฉันฟัง ไม่ใช่แค่คำพูด  ฉันฟัง “จังหวะของสิ่งที่คุณพูดได้” และ “คลื่นของสิ่งที่คุณยังพูดไม่ได้”

ฉันดูว่าเรื่องไหนวน  เรื่องไหนสะดุด เรื่องไหนที่คุณพูดเร็วเกินไป หรือเรื่องไหนที่คุณหลบตาตอนพูดถึง
และบางที…คุณอาจแค่พูดคำว่า “มันแน่นตรงนี้ค่ะ”  พร้อมเอามือแตะกลางอก แล้วนั่นแหละคือประตูของ session

.......

ฉันจะช่วยถามในจุดที่พาเข้า  ช่วยสื่อกลับให้คุณเห็นสิ่งที่ตัวเองไม่เคยพูดกับตัวเอง
และฉันจะไม่เร่งให้คุณอธิบาย แต่จะ “อยู่กับคุณในจังหวะที่คุณเริ่มได้ยินตัวเอง” มากขึ้น

.......

ถ้าคุณไม่รู้จะเริ่มยังไง  แค่เริ่มจาก “ความรู้สึกว่าอยากเข้าใจตัวเอง”
แล้วที่เหลือ…ฉันจะพาไปเอง  โดยไม่เร่ง และไม่ตัดสินว่าคุณพูดเก่งหรือเปล่า


6. ฉันต้องมีปัญหาหนักระดับไหนถึงจะมาได้?
 
ไม่จำเป็นต้องมี “ปัญหาหนัก” เลยค่ะ
คุณไม่ต้องพัง ไม่ต้องมีเรื่องดราม่า ไม่ต้องใกล้จุดแตกหักถึงจะเข้ามาได้

หลายคนที่มาหาฉัน ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีปัญหาใหญ่
แต่เขารู้สึกว่า...

- “ฉันไม่อินกับชีวิตเหมือนเดิมแล้ว”
- “เหมือนมีอะไรบางอย่างข้างในมันเริ่มตึง เริ่มขัด เริ่มไม่โอเค”
- “ฉันใช้ชีวิตได้ แต่รู้สึกว่าไม่ได้อยู่กับตัวเองเท่าที่ควร”

และนั่นคือจังหวะที่เหมาะที่สุด  เพราะ Soul Structuring ไม่ได้มีไว้เพื่อ “ซ่อมคนที่พัง” เท่านั้น 
แต่มันมีไว้เพื่อ “พาคุณกลับมาอยู่กับจังหวะของตัวเอง ก่อนที่คุณจะหลงทางไปไกลกว่านี้” ได้อีกด้วย

.......

สิ่งที่เราจะทำใน session  ไม่ใช่การวิเคราะห์ว่า “ปัญหาคุณหนักพอหรือยัง”
แต่คือการฟังว่า…**ระบบข้างในของคุณ กำลังพยายามจะพูดอะไรกับคุณอยู่**

บางครั้งแค่คุณรู้สึกว่า “เหนื่อยแบบไม่รู้เพราะอะไร” หรือ “เบื่อบางอย่างที่เคยชอบ”
หรือแค่ “เริ่มถามตัวเองว่า จริงๆ แล้วฉันกำลังจะไปทางไหน” แค่นั้นก็มากพอจะเริ่มต้นได้แล้ว

.......

Soul Structuring ไม่ได้ใช้ระดับของปัญหาเป็นจุดเริ่มต้น  แต่มันใช้ “จังหวะที่คุณอยากกลับมาเข้าใจตัวเองอีกครั้ง”
ไม่ว่าคุณจะกำลังเจออะไรก็ตาม ถ้าคุณรู้สึกว่า “อยากเข้าใจมันจากข้างใน”  นั่นคือเวลาที่เหมาะจะมาแล้วค่ะ




 
 
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้