เคยสงสัยมั้ยคะว่าทำไมลูกของเราซนเหลือเกิน ไม่เคยอยู่นิ่งได้เลยแม้แต่ช่วงเวลาสั้นๆ ไม่มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำได้นานเพียงพอ เบื่อง่ายกับทุกอย่างยกเว้นตอนดูทีวีหรือเล่น Smart phone และ Tablet มักจะยุกยิกๆอยู่ไม่สุข ชอบตะโกนโวยวายเสียงดัง พูดอะไรเตือนอะไรก็ไม่ฟังไม่สนใจ ทำอะไรเร็วจี๋และหุนหันพลันแล่นอยู่ตลอดเวลา ขี้โมโหขี้หงุดหงิดเจ้าอารมณ์เป็นที่หนึ่ง ส่วนมากมักจะมีปัญหากับเพื่อนๆและคุณครูที่โรงเรียน และคุณครูมักจะแจ้งคุณพ่อคุณแม่ว่าลูกของคุณพ่อคุณแม่ไปแกล้งเพื่อนๆในห้อง ไม่ตั้งใจเรียนไม่สนใจฟังคุณครู นึกจะวิ่งเล่นในห้องก็วิ่ง นึกจะนั่งพื้นก็นั่ง ทำตามใจฉันตลอด....
แม้ว่าอาการแบบนี้ดูเหมือนจะพบได้กับเด็กๆโดยทั่วไป แต่เด็กที่มีอาการสมาธิสั้น หรือที่เรียกว่าเด็กไฮเปอร์ นั้น อาการแบบนี้จะมีอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์หรือสถานที่ใดก็ตามค่ะ
สิ่งที่จะตามมาก็คือ การเรียนลูกจะแย่ลงๆ ลูกจะเรียนไม่ทันเพื่อนเพราะไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อกับการเรียนเหมือนเพื่อนๆได้ มักถูกลงโทษที่โรงเรียนเป็นประจำ มีปัญหาการเข้าสังคมกับเพื่อนๆและคนรอบข้าง มีเพื่อนน้อยหรือไม่มีเพื่อนเลย คนรอบข้างรำคาญไม่อยากเล่นด้วยหรืออยู่ใกล้ ลูกจะไม่มีความสุขและก็ไม่เข้าใจด้วยว่าอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อเป็นเช่นนี้เรื่อยๆนานวันเข้าความรู้สึกมีคุณค่าในตัวเองจะลดลง เมื่อลูกมีความทุกข์สะสมจะยิ่งกลายเป็นเด็กอมทุกข์ ขี้หงุดหงิด และกลับมาอาละวาดมากขึ้นกับคนในบ้าน....ถ้าคนในบ้านหรือคุณพ่อคุณแม่ละเลยไม่ใส่ใจหรือมองข้ามอาการต่างๆเหล่านี้ ลูกจะมีปัญหาชีวิตหลายอย่างเมื่อเติบโตขึ้นมาและยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้
การแก้ไขปัญหาเด็กสมาธิสั้นนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งตัวลูกและทุกคนในครอบครัวโดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องปรับพฤติกรรมการสั่งสอนลูกและปรับทัศนคติของตัวคุณพ่อคุณแม่เองให้สอดคล้องกับการพัฒนาพฤติกรรมของลูกไปในเชิงบวก เด็กสมาธิสั้นสามารถแก้ไขได้โดยการที่คุณพ่อคุณแม่ต้องตระหนักรู้ข้อมูลอาการเบื้องต้นเหล่านี้ที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกเอาไว้ การรู้ลักษณะอาการเหล่านี้แต่เนิ่นๆจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆที่จะตามมาและสามารถฟื้นฟูสุขภาพจิตและความสามารถในการเรียนรู้ของลูกให้ดีขึ้น และที่สำคัญความสุขของทุกคนในบ้านก็จะตามมาอย่างแน่นอนค่ะ
การทำ Coaching เป็นวิธีที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเด็กสมาธิสั้นได้ค่ะ โดยโค้ชจะเน้นการปรับทัศนคติและปรับโปรแกรมการทำงานของจิตใต้สำนึกของเด็กให้สามารถสื่อสารกับร่างกายและจิตสำนึก เพื่อให้เด็กสามารถปรับพฤติกรรมของพวกเค้าให้เป็นปรกติได้ นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องได้รับการ Coaching ด้วยเช่นกันในเรื่องของวิธีการพูดคุย การสอนลูก การปรับพฤติกรรมของลูก และสำคัญที่สุดการปรับทัศนคติและทำการโปรแกรมจิตใต้สำนึกของคุณพ่อคุณแม่ให้สามารถรับมือกับลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข.....ผลที่ตามมาคือไม่เพียงแต่พฤติกรรมสมาธิสั้นของลูกจะแก้ไขได้ แต่ความคิดความรู้สึกและทัศนคติที่เคยสับสนวุ่นวายของคุณพ่อคุณแม่ ความรู้สึกที่ความสุขในบ้านขาดหายไปจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยค่ะ